สืบเนื่องมาจากการบังคับใช้กฎหมายลิขสิทธิ์ ปี ๒๕๓๗ ประมาณยุครัฐบาลของคุณทักษิณเริ่มต้นก็มีการบังคับจัดเก็บอย่างจริงจัง ทั้งที่กฎหมายดังกล่าวไม่มีกฎหมายลูกหรือระเบียบ ขั้นตอน วิธีปฏิบัติ ทุกอย่างมุ่งเป้าหมายยอดจัดเก็บให้ได้ตามวัตถุประสงค์ ตามวิสัยของนายทุนที่เข้ามาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์จากการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา สิ่งที่ปรากฏชัดเจนคือภาครัฐไม่มีมาตรการใดๆมารองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นกับสังคมและเศรษฐกิจ การดำเนินการในเบื้องต้นเกิดจากการขัดแย้งกันของค่ายมหาชนที่ต่างฝ่ายต่างมุ่งแต่ผลประโยชน์ของตนเองเป็นที่ตั้ง โดยอาศัยอำนาจคุ้มครองตามกฎหมาย รวบรวมกลุ่มครูเพลงหรือเจ้าของสิทธิ์มาเข้ากับฝ่ายตน ข้ออ้างประการแรกที่มีการระดมจัดเก็บและจับกุม คือ จัดเก็บให้ครูเพลงเจ้าของสิทธิ์ โดยแบ่งเป็น สองกลุ่มจัดเก็บ อีกฝ่ายจะเริ่มจัดเก็บ อีกฝ่ายก็ข่มขู่ไม่ให้จ่าย หากจ่ายก็จะจับในส่วนสิทธิ์ของตน และจะจัดเก็บบ้าง ผู้ประกอบการเปรียบเหมือนเหยื่อของความขัดแย้งระหว่างสองค่ายเพลงมีพฤติกรรมที่เหี้ยมโหด อำหิต ใช้ทุรชนในคราบของทีมจับกระทำต่อผู้ประกอบการอย่างไร้มนุษยธรรม ติดสินบนเจ้าหน้าที่ ทำทุกอย่างเพื่อแสวงหาผลประโยชน์อันมิชอบ สร้างความเจ็บปวดและโกรธแค้นแก่ผู้ประกอบการอย่างถ้วนหน้าชนิดไม่ยอมเผาผีกัน มีคดีการจับกุมที่นำไปสู่ความรุนแรงในหลายรูปแบบตั้งแต่การทำร้ายร่างกายจนถึงฆ่ากันตาย
จนถึงกรณีของคุณประสิทธิ์ มหายศที่ถูกจับกุมดำเนินคดี ละเมิดลิขสิทธิ์เผยแพร่ จากทีมจับจากนรก ไม่สามารถยอมรับความกดดันมีการเรียกเงินค่ายอมความเป็นแสนมีการข่มขู่จากเจ้าพนักงานตำรวจบางคน ว่าอาจถึงขั้นติดคุกถ้าไม่มีเงินจ่าย จนคุณประสิทธิ์ต้องผูกคอตายไม่อาจอยู่บนโลกที่แสนจะโหดร้ายใบนี้อีกต่อไป คุณประสิทธิ์เป็นลูกโทนมีคุณพ่อปุ่น ที่อายุมากมีลูกชายเพียงคนเดียวที่กตัญญู ดูแลพ่อตามอัตภาพตลอดมา อนิจาบัดนี้ ไร้ที่พึ่งข้าวแต่ละคำน้ำแต่ละขันต้องต่อชีวิตจากการขอความเมตตาจากญาติมิตรและเพื่อนบ้าน โดยไม่หน่วยงานใดมารับรู้ถึง ความทุกข์ยากที่ได้รับจากอำนาจรัฐที่ตรากฎหมายบาป เอื้อประโยชน์ให้กับทรชนทำมาหากินบนหลังคน แล้วเมื่อใดเล่าจะมีผู้มีบารมีบนแผ่นดินที่เรียกว่าประเทศไทยมาสำนึกรู้ถึงสิ่งที่น่าละอายที่ชนชั้นปกครองทิ้งมรดกแห่งความอัปยศไว้ให้กับชาวบ้านที่ทำมาหากินด้วยความสุจริตแต่ต้องมารับกรรมที่ตนเองไม่มีส่วนก่อขึ้นมา
การคุ้มครองสิทธิทางปัญญา ลิขสิทธิ์เป็นสิ่งที่สมควร แต่สิ่งที่ไม่สมควรเป็นอย่างยิ่งคือการออกกฎหมายเปิดช่องให้คนเลวมาทำมาหากินกับความทุกข์ยากและน้ำตาของผู้ประกอบการที่ใช้งานเพลง จนถึงทุกวันนี้จะมีข้าราชการหน่วยงานใดบ้างที่จะสามารถแก้ไขปัญหาโง่ๆ ที่เกิดขึ้นเพื่อคุ้มครองสิทธิ์ของคนกลุ่มหนึ่งแต่ต้องไปทำร้ายสังคม คนทั้งประเทศ การจับกุมดำเนินคดีกับผู้ประกอบการที่ตกเป็นเหยื่อของกฎหมายลิขสิทธิ์ ทำร้ายสิทธิ์มนุษยชน ทำลายธุรกิจระดับล่าง ที่คนทำมาหากินระดับล่างใช้สำหรับผ่อนคลาย พักผ่อน หลังจากเลิกงาน การจับกุมหนึ่งครั้งเท่ากับการล้มละลายของธุรกิจนั้นๆ ร้านค้าและผู้ประกอบจะมีสภาพเหมือนแพแตก ลูกจ้างแต่ละคนที่มาทำงานส่งเงินไปจุนเจือครอบครัวของตนเอง ต้องแตกกระสานซ่านเซ็น อาจไปก่ออาชญกรรมเพราะความแร้นแค้น
ที่ถูกกระทำจากสังคม หลายปีมานี้มีกิจการที่ได้รับผลกระทบจากการจับกุมรีดไถของทีมจับนับไม่ถ้วน มูลค่าความเสียหายทางสังคมและเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นไม่สามารถประเมินค่าได้ จากความผิดพลาดในการบริหารจัดการของภาครัฐ
บริษัทจัดเก็บจะมีรายได้จากการจัดเก็บน้อยลงไปเรื่อยๆ เพราะร้านค้าผู้ประกอบการทยอยกันล้มละลายไปเรื่อยๆ สุดท้ายแล้วการจัดเก็บในลักษณะที่ใช้กฎหมายเป็นเครื่องมือจะหันกลับมาทำร้ายตัวเองจากความโง่เขลา ละโมบ กระหายเลือด
คนโบราณเคยสอนไว้ว่า อย่าเอารากถั่ว มาต้มถั่วกิน ความหมายคือการยึดถือแต่ประโยชน์ระยะสั้นในระยะยาวจะสูญเสียผลประโยชน์ทั้งหมด การนำรากถั่วมาต้มถั่วกิน แรกก็จะรู้สึกว่าได้รับประโยชน์ แต่เมื่อทำต่อไป ต้นถั่วก็จะค่อยๆตายลงไป จนไม่มีถั่วกินในที่สุด เหล่านี้ล้วนเป็นพฤติกรรมของคนถ่อย ด้อยปัญญา พฤติกรรมของบริษัทจัดเก็บที่ต่างฝ่ายต่างอ้างสิทธิตามกฎหมาย รุมกินโต๊ะผู้ประกอบการเหมือนฝูงแร้งลงทึ้งซากศพ ช่างน่าสมเพศจริงๆ จากประสพการณ์อันขมขื่นและบทเรียนดังกล่าว เราผู้ประกอบการไม่สามารถพึ่งพาภาครัฐได้อีกต่อไป
สิ่งเราควรทำคือต้องพึ่งตนเองเป็นหลักโดยการรวมตัวกันให้เหนียวแน่น ต่อสู้เพื่อสิทธิอันชอบธรรม ความยุติธรรมไม่เคยได้จากการร้องขอ ความยุติธรรมต้องได้มาจากการต่อสู้เท่านั้น เมื่อครั้งที่มีการประชุมอนุกรรมการเพื่อให้มีองค์กรจัดเก็บในขั้นตอนสุดท้ายก็ถูกค่ายเพลงที่สูญเสียผลประโยชน์พยายามสกัดกั้นทุกวิถีทางทั้งทางตรงและทางอ้อมจนกระบวนการดังกล่าวมีอันต้องล้มเหลวลงในที่สุด ขณะนี้สมาพันธ์ฯได้พยายามผลักดันให้มีองค์กรจัดเก็บที่เป็นธรรมกับทุกฝ่ายโดยการมีส่วนร่วมเป็นอนุกรรมการร่วมแก้ไขร่างพรบ.จนผ่านคณะกรรมการกฤษฎีกาเข้าครม.และขณะนี้อยู่ในขั้นตอนของ สนช. เมื่อวันที่ ๒๑ พฤศจิกายน ได้มีการรับหลักการร่าง พรบ.ที่เสนอโดยรัฐบาล และมีร่างของ สนช.กงกฤช หิรัญกิจ เข้าพิจารณาด้วย ต่อมาได้มีการแต่งตั้งกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาร่างดังกล่าว โดยมีตัวแทนจากบ.แกรมมี่ อาร์เอส อธิบดีกรมทรัพย์ รองอธิบดีฯ เข้าร่วมเป็นกรรมาธิการ
แต่ก็เกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันประวัติศาสตร์ซ้ำรอย กลุ่มบริษัทจัดเก็บได้รวมตัวกันประกาศคว่ำร่างดังกล่าว โดยมีการนัดชุมนุมที่ลานพระบรมรูปทรงม้าในวันอังคารที่ ๑๑ เวลา ๑๓.๐๐ น. เพื่อยื่นหนังสือคัดค้านร่างดังกล่าว เผยถึงธาตุแท้ของบริษัทจัดเก็บเหล่านี้ที่ไม่ได้ให้ความเคารพต่อมติของที่ประชุมและไม่ยอมรับสิ่งที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวม คิดถึงแต่ด้านผลประโยชน์ของตนเองและมักอ้างสิทธิ์ตามกฎหมาย ทั้งที่พฤติกรรมที่ผ่านมาของทีมจับได้ละเมิดต่อผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องและรุนแรง
พรชัย ศิรินุกูลชร
10-12-50
