เมื่อเวลา 00.30 น. วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2556 ขณะที่ พ.ต.ท.ช่วงโชติ มงคลธนายุทธ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา จ.ชลบุรี เข้าเวรทำหน้าที่อยู่นั้น นายประสิทธิ์ ประเสริฐกิตติกุล ผู้รับมอบอำนาจช่วงจาก บริษัท จี-เอ็มเอ็ม มิวสิค พลับลิสชิ่ง อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และนาย เกียรติคุณ ทักษินนุกูลวงศ์ M.P บ.อิพาเท็นท์ (แกรมมี่) กับพวกรวม 7 บริษัท ได้เดินทางเข้าแจ้งความว่า นักร้องลูกทุ่งหมอลำชื่อดัง ไหมไทย ใจตะวัน หรือ นาย มนต์ชัย รักษาชาติ อายุ 45 ปี หรือ อยู่บ้านเลขที่ 164 หมู่ 10 บ้านหัวแฮด ต.ธัญญา อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ได้นำเพลงที่บริษัทฯ เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์มาร้องเผยแพร่บนเวทีคอนเสิร์ต พระเอกใหญ่ ไหมไทย ใจตะวัน ปะทะ ก้านตอง ที่จัดขึ้นบริเวณริมถนนพัทยาสาย 3 ตรงข้ามร้านอัมพรซีฟู๊ด ย่านพัทยากลาง หมู่ 9 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง หลังรับแจ้งจึงประสาน พ.ต.ท.พงศ์สวัสดิ์ วงศ์วาน สว.สส. พ.ต.ต.โกวิทย์ สวัสดิ์มงคล สวป. พร้อมกำลังตำรวจ สภ.เมืองพัทยา และตำรวจ กก.สส.ภ.จว.ชลบุรี ประมาณ 10 นาย เดินทางไปตรวจสอบ
เมื่อไปถึงพบว่าคอนเสิร์ตดังกล่าวได้ล้อมรั้วสังกะสี กว้างประมาณ 14 ไร่ ปิดประเก็บเงินค่าเข้าชมในอัตราผู้ใหญ่ 120 บาท เด็ก 50 บาท และชาวต่างชาติจำนวน 150 บาท ส่วนภายในงานมีแฟนเพลงทั้งไทยและต่างชาติมาร่วมชมคอนเสิร์ตในวิกสังกะสี ประมาณ 1,000 คน ทำให้บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายมาเล็กน้อย จนทำให้พื้นดินเฉอะแฉะ ในระหว่างนั้นนายมนต์ชัย หรือ ไหมไทย กำลังร้อง เพลงบอกว่าใช่ และเพลง ถูกทิ้งที่พัทยา เป็นเพลงสุดท้ายก่อนที่ลงจากเวที เจ้าหน้าที่ตำรวจที่อยู่ด้านล่างจึงแสดงตัวเข้าจับกุม แต่นายมนต์ชัย กลับเดินหนีไปขึ้นรถบัสประจำวง และพยายามหลบหน้าผู้สื่อข่าว ต่อมาตำรวจได้ขึ้นไปเพื่อเจรจาจนกระทั่งนายมนต์ชัย ยอมมอบตัวแต่ขอร้องไม่ให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ เพราะเกรงว่าแฟนเพลงจะแตกตื่น จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวขึ้นรถออกไปทางด้านหลังเวทีมาทำการสอบสวนที่ สภ.เมืองพัทยา
โดย นายมนต์ชัย หรือ ไหมไทย ใจตะวัน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า หลังจากตนออกจากวงเสียงอีสาน เข้ามาเป็นนักร้องในสังกัดค่าย แกรมมี่ ถ้านับเวลาได้ก็ประมาณ 6 ปีแล้ว และเพิ่งจะหมดสัญญาในวันที่ 14 ม.ค.ที่ผ่านมา หลังจากนั้นตนก็ได้ตระเวนไปร้องเพลงในคอนเสิร์ตตามจังหวัดต่างๆ กระทั่งทางบริษัท จี-เอ็มเอ็มแกรมมี่ มีหนังสือมาเตือนว่าไม่ให้นำเพลงที่แกรมมี่เป็นเจ้าของลิขสิทธิ์ไปร้องเผยแพร่ เนื่องจากทาง ไหมไทย หมดสัญญากับทางบริษัทแล้ว และหากจะนำไปร้องก็ต้องไปพูดคุยกันอีกครั้ง แต่ตนไม่มีความรู้เรื่องนี้และไม่มีฝ่ายกฎหมายประจำวง จึงได้นำเพลงมาร้องโดยไม่ได้ตั้งใจ ซึ่งตนอยากกราบขอโทษและขอขมาผู้บริหารบริษัทฯ และจะขอเข้าพบเพื่อพูดคุยเจรจาไกล่เกลี่ยในเรื่องคดีภายหลัง
ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเปิดเผยว่า เบื้องต้นคดีนี้สามารถยอมความกันได้โดยได้ตั้งข้อกล่าวหาว่า ละเมิดลิขสิทธิ์ของผู้อื่นเพื่อประสงค์ ทางการค้าในงานดนตรีกรรมโดยการเผยแพร่ต่อสาธารณะชน โดยไม่ได้รับอนุญาต อันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 จึงอนุญาตให้ประกันตัวออกไปในวงเงิน 50,000 บาท ซึ่งหากทั้ง 2 ฝ่ายตกลงกันได้ก็ถือว่าคดีนี้สิ้นสุด.
วันที่ 1/02/2556 เวลา 17:22 น.
(31-8-56) |