เจ้าของร้านเกม อินเตอร์เน็ตดรีมคาร์เฟ่ ย่านหนองแขม ร้องสื่อถูกตรวจสอบโปรแกรมเถื่อน-ค้นโพยหวยในร้าน พร้อมควบคุมตัวไปยัง สน.โดยไม่เป็นธรรม อ้างถูกเจ้าหน้าที่รัฐข่มขู่ทำร้ายร่างกาย มีกล้องวงจรปิดในร้านจับภาพได้
นายพงษ์พันธ์ ลิมปนิธิวัฒน์ อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 39/63 ซอยเพชรเกษม 77/4 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม เจ้าของร้านอินเตอร์เน็ตดรีมคาร์เฟ่ ตั้งอยู่เลขที่ 39/30 ภายในซอยเดียวกัน เข้าร้องเรียนกับสื่อมวลชน หลังถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน ระดับรองสารวัตร สน.หนองแขม ร่วมกับผู้รับมอบอำนาจจาก บริษัท ลิขสิทธิ์ซอฟแวร์ จำนวน 7 คน นำหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชัน เข้าตรวจค้นภายในร้านโดยมิชอบ และยังใช้กำลังทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ มีหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านบันทึกไว้ได้ชัดเจน แถมยังถูกนำตัวไปเข้าห้องขังที่โรงพัก 2 วัน พร้อมทั้งยึดเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ต่าง ๆ ของร้านไปตรวจสอบกว่า 24 เครื่อง ก่อนใช้หลักทรัพย์ประกันตัวออกมาในชั้นศาล 100,000 บาท ตนเปิดร้านอินเตอร์เน็ตคาร์เฟ่ มาได้ 4 ปีแล้ว มีเครื่องคอมพิวเตอร์จำนวน 60 เครื่อง จากนั้นได้ขยายกิจการเปิดร้านที่ 2 ภายในซอยเดียวกันและใช้ชื่อเดียวกัน จนกระทั่งวันเกิดเหตุเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 เม.ย.ที่ผ่านมา ขณะที่กำลังดูแลอยู่ที่ร้านสาขา 2 มีเด็กที่ดูแลร้านสาขาแรกเข้ามาบอกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจอยากคุยด้วย โดยบอกจะมากำชับเรื่องการเข้าใช้บริการของเด็กที่อายุต่ำกว่ากฏหมายกำหนด
เมื่อไปที่หน้าร้านก็พบกับ ร.ต.อ.สมบูรณ์ ทิณพัฒน์ รอง สว.สส.สน.หนองแขม พาเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน 3 คน และนายสงวน สีแสง ที่อ้างว่าเป็นผู้รับมอบอำนาจจากบริษัท ดี ไอ ดี จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทซอฟร์แวร์ กับพวกรวมทั้งหมด 7 คน นำหมายค้นศาลจังหวัดตลิ่งชันมาขอตรวจค้นร้าน โดยหมายค้นระบุว่า เป็นหมายค้นเลขที่ที่ ค.49/2553 ลงวันที่ 5 เม.ย. เพื่อขอตรวจค้นร้าน อินเตอร์เน็ต ดรีม คาร์เฟ่ ตั้งอยู่ซอยเพชรเกษม 77/4 แขวงหนองแขม เขตหนองแขม เพื่อพบและยึดสิ่งของซึ่งมีไว้เป็นความผิด หรือได้มาโดยผิดกฏหมาย หรือได้ใช้ หรือตั้งใจจะใช้ในการกระทำผิด โดยระบุกระดาษโพยสลากกินรวบ เครื่องโทรสาร เครื่องคิดเลขและอุปกรณ์ที่ใช้รับแทงการพนันสลากกินรวบ หลังจากที่ตรวจสอบหมายค้นจึงแย้งไปว่า ไม่มีการลงบ้านเลขที่ อีกทั้งแขวงที่ตั้งในหมายค้นก็ลงผิด ที่สำคัญในหมายค้นระบุค้นกระดาษโพยสลากกินรวบ ซึ่งร้านตนไม่มี แต่ทาง ร.ต.อ.สมบูรณ์ ก็พูดกลับมาว่า มึงอย่ามาหัวหมอ พร้อมจะขอยกเครื่องไปตรวจสอบ เนื่องจากมีโปรแกรมละเมิดลิขสิทธิ์ โดยนายสงวน บอกว่า เป็นโปรแกรม NXD ซึ่งเป็นโปรแกรมอำนวยความสะดวกในการอัพเดทข้อมูล โดยตนเองก็บอกว่าที่ร้านไม่ได้ใช้โปรแกรมนั้น ใช้แต่โปรแกรม RICHTECH ทำให้กลุ่มเจ้าหน้าที่จึงออกไปปรึกษากัน
หลังจากนั้น ร.ต.อ.สมบูรณ์ ได้เข้ามาในร้าน พร้อมพวกอีกครั้งโดยมีการถอดเสื้อเครื่องแบบออก สวมเพียงเสื้อลำลอง ระหว่างนั้นนายสงวนกับพวกก็พยายามจะเอาเครื่องคอมพิวเตอร์ไป ตนจึงเข้าไปห้าม ทำให้ ร.ต.อ.สมบูรณ์ ตรงเข้ามาถามว่า มึงสู้ใช่ไหม แล้วก็ชกเข้ามาที่ใบหน้าด้านขวา 1 ครั้ง และทุบเข้าที่ต้นคออีก 1 ครั้ง ก่อนที่พรรคพวกที่มาด้วยพยายามใส่กุญแจมือซ้ายของตน และเข้ามาช้อนขาจนเสียหลักล้มลง ทำให้ถูกกระทืบเข้าบริเวณท้องอีก 1 ครั้ง ทำให้จุกมาก ตนเลยบอกว่ายอมแล้ว ช่วงนั้นก็มีพยานซึ่งเป็นเด็กดูแลร้านอยู่ด้วย 2 คนด้วย รวมทั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิดภายในร้านก็สามารถบันทึกภาพไว้ได้ตลอดอย่างชัดเจน
เมื่อมาถึงโรงพักตำรวจก็ได้ควบคุมตนมาที่ห้องสืบสวน พร้อมกับเอาบันทึกจับกุมให้ตนเซ็นชื่อ แต่ตนไม่ยอม เนื่องจากตำรวจไม่ยอมให้อ่านและไม่มีการอ่านให้ฟัง ตำรวจนายหนึ่งได้ด่าด้วยว่า ไอ้ควายโง่ แทนที่เรื่องจะจบเร็ว ๆ จากนั้นก็เอาตนไปขังในห้องขังเป็นเวลา 2 วัน ก่อน พ.ต.ท.ยศวัจน์ เสาโมก พนักงานสอบสวน (สบ 2) สน.หนองแขม เจ้าของคดีจะส่งตัวฟ้องศาล พร้อมแจ้งข้อหากระทำซ้ำ ดัดแปลง เผยแพร่โปรแกรมคอมพิวเตอร์ อันมีลิขสิทธิ์ผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตเพื่อหากำไร ตาม พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ "ผมพยายามจะประกันตัวที่โรงพัก แต่ตำรวจแจ้งว่า ต้องใช้หลักทรัพย์ 500,000 บาท ซึ่งผมไม่มีทรัพย์สินถึงขนาดนั้น หลังจากนั้งจึงได้นำเงินจำนวน 100,000 บาท ไปประกันตัวจากศาลทรัพย์สินทางปัญญา แต่ก็ถูกยึดเครื่องคอมพิวเตอร์ พร้อมอุปกรณ์ เช่น จอคอมพิวเตอร์ เม้าส์ แป้นพิมพ์ ลำโพง มาทั้งหมด 24 ชุด"
ส่วนของคดี มีการผลัดฟ้อง 4 ครั้ง ตนได้เดินทางไปพบที่ศาลทรัพย์สินทางปัญญาทุกครั้ง กระทั่งครั้งสุดท้าย มีการสั่งฟ้องโดยพนักงานสอบสวน เมื่อวันที่ 24 พ.ค. ก็ได้เดินทางไปรอตั้งแต่ 10.00 น. กระทั่งศาลปิด ก็ไม่ปรากฏพนักงานสอบสวนไปส่งฟ้อง ทำให้จนถึงปัจจุบันนี้ก็ไม่รู้ว่าเรื่องไปถึงไหน ซึ่งคอมพิวเตอร์ของตนทั้ง 24 เครื่อง ที่ถูกยึดไปก็พยายามติดต่อขอคืน โดยยินดีทิ้งไว้ให้ตรวจสอบ 4 เครื่องที่เป็นเครื่องแม่ แต่ก็ได้รับคำตอบว่า ต้องส่งไปตรวจที่ไอซีที แต่ถูกตีกลับไม่มีการตรวจ และได้ส่งไปตรวจต่อที่เนคเทคก็ไม่มีการตรวจ เนื่องจากสถานที่นั้นทำเพื่องานวิจัย จนสุดท้ายได้รับคำตอบว่า ขณะนี้เครื่องส่งไปตรวจที่กองพิสูน์หลักฐานสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
หลังจากนั้น ตนก็ได้รับการติดต่อจากนายสงวน ตัวแทนลิขสิทธิ์ ว่าจะขอเงิน 300,000 บาท เพื่อจบเรื่องนี้ แต่ตนปฏิเสธไป จนกระทั่งล่าสุดมีการติดต่อมาว่า จะขอเงิน 100,000 บาท พร้อมถามว่า พอจ่ายไหวหรือไม่ ซึ่งตนก็ไม่ยอมแน่นอน ยืนยันว่าจะต่อสู้จนถึงที่สุด เพื่อความถูกต้อง
พ.ต.ท.สมชัย บุญงอก สว.สส.สน.หนองแขม กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อเท็จจริงอยู่ โดยเบื้องต้นทราบว่า ในวันที่เจ้าหน้าที่ไปจับกุมนั้น นายพงษ์พันธ์ พยายามใช้แป๊ปเหล็กต่อสู้ ซึ่งอยู่ระหว่างการตรวจสอบข้อมูลอยู่ เนื่องจากมีคนของนายสงวน ถ่ายวีดีโอไว้ขณะเข้าจับกุมด้วย ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะประสานนำมาเป็นหลักฐานทำการชี้แจงด้วย โดยคาดว่าภายในวันที่ 14 ก.ค. จะชี้แจงได้อย่างละเอียด จากการตรวจสอบร้านอินเตอร์เน็ต ดรีม คาร์เฟ่ นั้นเป็นอาคารพานิชย์สูง 3 ชั้น 1 คูหา ชั้น 1-2 เปิดบริการอินเตอร์เน็ต โดยภายในร้านมีการติดกล้องโทรทัศน์วงจรปิดอย่างชัดเจนจำนวน 8 ตัว และหน้าร้านมีอีก 1 ตัว นอกจากนี้ ที่ร้านยังมีการติดป้ายสติ๊กเกอร์ของกระทรวงวัฒนธรรม ระบุข้อความ ร้านเกมส์สีขาว เพื่อเยาวชน ถูกต้อง และมีการปิดประกาศจากนายทะเบียนกลาง เรื่องข้อบังคับการอนุญาตให้เยาวชนอายุต่ำกว่า 15 ปี และอายุตั้งแต่ 15-18 ปี เข้าใช้บริการตามห้วงเวลากำหนดชัดเจน รวมทั้งมีใบอนุญาตประกอบการอย่างถูกต้อง
อิป้า แอบสงสัย จะได้ไหมล่ะ...สงสัยว่า เจ้าของร้านเกมส์ ถึงขนาดต่อสู้ด้วยเหล็กแปปจริงหรอ....ดูเจ้าของร้านเกมส์ ตัวแห้งเป็นกุ้ง ตำรวจตั้งไม่รู้กี่คน จะกล้าขนาดนั้นเลยหรอ ....แถมบอกว่ามาตรวจเรื่องลิขสิทธิ์ อีก เป็นอิป้า คงจะไม่กล้ากับเจ้าหน้าที่หรอก....
เรื่องนี้คงต้องรอดูกันอีกยาว.....ว่าตำรวจจะแก้ตัว เฮ้ย...แจงรายละเอียดว่า
สื่อเสนอข่าวหลายๆที่ให้ตำรวจเลว ออกจากราชการเลยครับ
แหล่งที่มา ผู้จัดการออนไลน์
(2010-07-13 14:23:14 น.) ผกก.หนองแขมตั้งกก.สอบคดีตร.เรียกรับเงินค่าลิขสิทธิ์
ผู้กำกับการตำรวจนครบาลหนองแขมตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับตำรวจ และเจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ทำร้ายร่างกาย และเรียกรับเงินจากเจ้าของร้านอินเทอร์เน็ตแห่งหนึ่งแล้ว หลังจากทีวีไทยเปิดประเด็นการร้องเรียนในช่วงที่ผ่านมา พล.ต.ต.ปิยะ อุทาโย โฆษกกองบัญชาการตำรวจนครบาล เปิดเผยถึงภาพจากกล้องวงจรปิดของร้านอินเทอร์เน็ตที่บันทึกเหตุการณ์เจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งกายชุดเครื่องแบบขณะที่นำหมายค้นระบุขอตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน หวยเถื่อน เข้าตรวจสอบลิขสิทธิ์ในร้านอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่ง ย่านหนองเเขม ซึ่งได้ทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 5 เมษายน ซึ่งในปัจจุบันทางตำรวจนครบาลหนองแขมได้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนตำรวจที่ถูกร้องเรียนแล้ว และพบว่าตำรวจที่ปรากฎในกล้องวงจรปิด คือ ด.ต.พรชัย พลสวัสดิ์ ผู้บังคับหมู่งานสืบสวนสอบสวน นครบาลหนองแขม
ด้านนายสราวุฒิ เบญจกุล รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม กล่าวว่า ในการยื่นขอหมายค้น เจ้าหน้าที่ตำราวจต้องระบุให้ชัดเจนว่าจะค้นหาบุคคลหรือทรัพย์สินและต้องไปขอหมายศาลที่เกี่ยวข้องให้ตรงกับวัตถุประสงค์ซึ่งหากเป็นกรณีทรัพย์สินทางปัญญา ต้องไปขออนุญาตศาลทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรก็ตาม หากมีกรณีที่เจ้าหน้าที่มาขอตรวจต้น สิทธิของประชาชนสามารถขอดูหมายค้นและตรวจสอบเรื่องให้ตรงกับการร้องขอ และสามารถปฏิเสธการให้ค้นได้
สำหรับภาพเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นภาพของเจ้าหน้าที่ตำรวจแต่งกายชุดเครื่องแบบที่กล้องวงจรปิดภายในร้านแห่งนี้บันทึกไว้ขณะที่นำหมายค้นระบุขอตรวจสอบเอกสาร หลักฐาน หวยเถื่อน เข้าตรวจสอบลิขสิทธิ์ในร้านอินเตอร์เน็ตแห่งหนึ่ง ย่านหนองเเขม ในเวลาต่อมา ภาพยังระบุชายคนเดียวกัน แต่ไม่สวมเครื่องแบบตำรวจ ร่วมกับพวกอีกประมาณ 5 คน ทำร้ายร่างกายเจ้าของร้าน เนื่องจากเจ้าของร้านไม่ยอมให้ยกเครื่องคอมพิวเตอร์ที่เจ้าหน้าที่ลิขสิทธิ์ที่อ้างชื่อนายสงวน สีแสง ที่ระบุว่ามีโปรแกรมคอมพิวเตอร์ NetZoneSoft NxD ของบริษัทดีไอดีละเมิดลิขสิทธิ์อยู่ออกไปจากร้าน และนายสงวนยังเสนอให้จ่ายเงินจำนวน 300,000 บาท เพื่อเเลกกับการไม่ถูกดำเนินคดี
16/7/53
กรณีที่นายพงษ์พันธ์ ลิมปนิธิวัฒน์ เจ้าของร้านอินเตอร์เน็ต นำภาพวงจรปิดขณะตำรวจทำร้ายร่างกายตนเอง ภายในร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ มาร้องเรียนนั้น
พลตำรวจตรีกรีรินทร์ อินทร์แก้ว ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุผู้ต้องหาจะคว้าท่อนเหล็กตีตัวแทนบริษัทลิขสิทธิ์ ตำรวจจึงเข้าห้าม ยืนยันว่าไม่มีการทำร้ายผู้ต้องหา ทั้งนี้ได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นสอบสวนข้อเท็จจริงและจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ส่วนร้อยตำรวจเอกสมบูรณ์ ชิณพัฒน์ รองสารวัตร สืบสวนสอบสวน สน.หนองแขม ที่ถูกกล่าวหา ก็ได้ยื่นใบลาขอพักราชการไปแล้ว
ทางด้านนายพงษ์พันธ์ ลิมปนิธิวัฒน์ เจ้าของร้าน ปฏิเสธว่าไม่ได้ใช้ท่อนเหล็กทำร้ายตัวแทนบริษัทลิขสิทธ์ ตามที่ตำรวจอ้าง
ส่วนเรื่องที่ผู้ต้องหาโต้แย้งว่า ข้อหาที่ถูกแจ้ง ไม่ตรงกับหมายค้นนั้น ได้รับคำชี้แจงจากสำนักงานเลขานุการศาลอาญา ว่า การออกหมายค้น ตำรวจต้องมีหลักฐานระบุสาเหตุการของเข้าตรวจค้น และ เป้าหมายที่คาดว่าจะพบ แต่หากตรวจสอบแล้วพบว่า พนักงานสอบสวนมีเจตนาค้น เพื่อวัตถุประสงค์ที่ไม่ตรงกับคำร้อง แต่อ้างเหตุผลเพื่อให้ง่ายต่อการขอหมายค้น ถือว่า อาจจะเข้าข่ายละเมิดอำนาจศาล
17/7/53 |