ทรัพย์สินทางปัญญา

สิทธิบัตร
เครื่องหมายการค้า
ลิขสิทธิ์
นวัตกรรม
สิทธิบัตร

เครื่องหมายการค้า

ลิขสิทธิ์
 นวัตกรรม

สิทธิบัตร

 ครื่องหมายการค้า
ลิขสิทธิ์
นวัตกรรม
สิทธิบัตร
ครื่องหมายการค้า
ลิขสิทธิ์
นวัตกรรม
สิทธิบัตร
ครื่องหมายการค้า

 ลิขสิทธิ์

 
   

ข่าวรายวัน/news

คมชัดลึก

ผู้จัดการ 

ไทยรัฐ

  เดลินิวส์
ไทยโพสต์

the nation

people.com.cn/

 chinadaily.com.cn/

cctv online

 

สยามรัฐออนไลน์

tv online/ดูทีวีออนไลน์

 

 คมชัดลึก

ผู้จัดการ 

ไทยรัฐ

 เดลินิวส์
ไทยโพสต์

the nation

people.com.cn/

chinadaily.com.cn/

cctv online

 

หนังสือพิมพ์ทั่วไป....

 Timesonline

 

tv online 3,   5,  7,  9,  nbt,  tpbs 

cctvnews 

tcctvโทรทัศน์ไทยจีน

mono29

 百家讲坛


 

中華日報

新中原報

ตำนานสามก๊ก

อ่านตำนานสามก็ก

โปรแกรมแปลภาษา

แปลอังกฤษเป็นไทย 

โปรแกรมแปลไทยเป็นอังกฤษ

แปลอังกฤษ-จีน English-chinese translate

แปลจีนเป็นอังกฤษ          Mandarin-English translate

 


ดูรายชื่อเพลงล่าสุด 

papa menu



papa menu

ตรวจสอบเพลงซ้ำซ้อน

(download) 

ขออนุญาติใบ 

พรบ.ภาพยนต์และวีดีทัศน์

    

ตรวจสอบรายชื่อ

บริษัทจัดเก็บทั้งระบบ


    bluesky TV

Facebook/papakaraoke  


สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทยยื่นหนังสือ คสช  อ่านรายละเอียด........





                                                                                                                                                                                                                                                    

ทรัพย์สินทางปัญญา

ชุมชนบางบัวทอง

karaoke

สมาพันธ์คาราโอเกะแห่งประเทศไทย

The source of intelligence. The original of innovation.The community of Well-being and Peaceful.


ผลการบังคับใช้

พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ปี ๒๕๓๗

เอกสารประกอบบทวิเคราะห์สภาทนายความ                    -1-                                    สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย

ผลการบังคับใช้ พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ปี 2537

สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย   เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการที่ใช้งานเพลงลิขสิทธิ์   มีสมาชิกที่หลากหลายในทุกภาคส่วนของผู้ใช้งานโดยไม่มีการแบ่งแยก ต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมตามสิทธิที่กำหนดในรัฐธรรมนูญ สะท้อนปัญหาและมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการจัดเก็บลิขสิทธิ์มาอย่างต่อเนื่องแสวงหาความร่วมมือ แลกเปลี่ยนข้อมูล ทั้งภาครัฐและองค์กรเอกชน  เพื่อการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน  เป็นธรรมกับทุกฝ่าย

1) การเริ่มจัดเก็บมี 2 กลุ่มองค์กรจัดเก็บลิขสิทธิ์เผยแพร่ มีการแข่งขันแย่งชิงความได้เปรียบโดยการรวบรวมเจ้าของสิทธิ์ต่างๆเข้ามาอยู่ฝ่ายตนให้มากที่สุดเพื่อสร้างอำนาจต่อรองทางธุรกิจ  จนเกิดความขัดแย้งระหว่าง 2 กลุ่มจัดเก็บ แต่ละฝ่ายต่างกดดันผู้ประกอบการเพื่อให้เป็นไปตามแนวทางของผลประโยชน์ที่ตนต้องการ  โดยอาศัยอำนาจคุ้มครองตามกฎหมายเป็นเครื่องมือ

 2) ผลจากความขัดแย้งดังกล่าวของกลุ่มบริษัทจัดเก็บฯ ทำให้เกิดผลกระทบโดยตรงต่อผู้ประกอบการที่ใช้งานเพลง  ในเรื่องการอ้างสิทธิ์และอัตราจัดเก็บฯ  ขั้นตอนการบังคับใช้กฎหมาย  การขาดข้อมูลและการประชาสัมพันธ์สู่สาธารณะ การละเมิดสิทธิมนุษย์ชนอย่างรุนแรง  กับการรุกคืบอย่างรวดเร็วในกระบวนการจัดเก็บไม่สอดคล้องกับความเป็นจริง  ซึ่งมีการบังคับใช้สิทธิ์ทางกฎหมายที่รุนแรงในขั้นตอนทางปฏิบัติที่มีโทษทางอาญาและค่าประกันตัวด้วยวงเงินที่สูง  การยึดของกลางแบบเหวี่ยงแห  การล่อซื้อเพลงเป้าหมาย  การประพฤติมิชอบของเจ้าหน้าที่ภาครัฐบางส่วนในการข่มขู่  กดดันให้มีการยอมความเพื่อเรียกรับผลประโยชน์ตอบแทน   จนเกิดการสูญเสียชีวิตของผู้ประกอบการและมีการทำลายทรัพย์สินฯและทำร้ายร่างกายซึ่งกันและกันเพื่อเป็นการตอบโต้  จากผลดังกล่าวทำให้เกิดการขยายผลต่อต้านจากผู้ประกอบการที่รุนแรงขึ้น ทำลายภาพพจน์ที่ดีตามเจตนารมณ์ของกฎหมายเพื่อคุ้มครองเจ้าของสิทธิ์

3) การรวบรวมเจ้าของสิทธิ์ของทั้งสองกลุ่ม  โดยวิธีการเหมาจ่ายตามกำหนดเวลา ที่แตกต่างกันของแต่ละราย  และการดำเนินการจัดเก็บที่ไม่มีมาตรฐาน  ไม่เป็นที่ยอมรับ ทำให้เกิดความหวาดระแวงและสร้างเงื่อนไขให้เกิดการต่อรองผลประโยชน์ที่ซับซ้อน เพราะมีเจ้าของสิทธิ์หลายราย เป็นที่มาของการแยกตัวออกมาตั้ง บริษัทจัดเก็บฯเป็นของตนเองหรือกลุ่มของตนเองเพิ่มมากขึ้น  ทำให้ผู้ประกอบการต้องรับภาระเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

4) การไม่มีการจดทะเบียนข้อมูลเจ้าของสิทธิ์ ของภาครัฐ และการถ่ายโอนสิทธิ์หรือการมอบอำนาจเป็นไปอย่างเสรี  นำมาซึ่งปัญหาการอ้างสิทธิ์ซ้ำซ้อนกัน  และการกำหนดอัตราจัดเก็บอย่างเสรี  ทำให้การจัดเก็บขาดเสถียรภาพและความต่อเนื่อง  เนื่องจากการต่อต้าน ประท้วงของผู้ประกอบการทั่วประเทศในกรณีการบังคับใช้คดีอาญาฯ

 

เอกสารประกอบบทวิเคราะห์สภาทนายความ                    -2-                        สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย

5) จากการไร้เสถียรภาพและไร้ระเบียบ แบบแผนของระบบจัดเก็บ  ทำให้เกิดช่องว่างในการแสวงหาผลประโยชน์ของทีมจับและเจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบ  ที่ใช้คดีอาญามีโทษจำคุก ต้องประกันตัวในวงเงินที่สูง  เป็นเครื่องมือในการข่มขู่ กดดันผู้ต้องหาให้มีการจ่ายค่าตอบแทนในการยอมความ  จากผู้ประกอบการที่ไม่มีข้อมูลความรู้ในการป้องกันตนเอง

6) มีการซื้อสิทธิ์จากครูเพลงของทีมจับเพื่อ เป็นเครื่องมือในการล่อซื้อเพลงเป้าหมายที่มีปัญหาซ้ำซ้อนกับเจ้าของสิทธิ์อื่นๆ ในลักษณะการใช้สิทธิ์ที่ไม่สุจริตของกลุ่มมิจฉาชีพ  ออกตระเวนล่าเหยื่อให้สินบนเจ้าหน้าที่ในการจับกุมรีดไถ ข่มขู่กรรโชกทรัพย์ต่อผู้ประกอบการที่ไม่รู้เท่าทันข้อเท็จจริง

7) เกิดกระบวนการทำลายวงจรธุรกิจของผู้ประกอบการ โดยทีมจับ แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ประกอบการตู้คาราโอเกะ เพื่อยึดตู้เป็นของกลาง  แล้วนำตู้ของตนเองเข้ามาตั้งแทนที่  ในกรณีที่ผู้ประกอบการไม่ยอมจ่ายเงินยอมความหรือต้องการต่อสู้ทางคดีฯ  ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่ไร้คุณธรรม การกระทำดังกล่าว จะตัดวงจรการซื้อสิทธิ์ของทุกบริษัทฯ เพราะมีเจตนาที่ไม่สุจริต 

8) เกิดกลุ่มอิทธิพลและเจ้าหน้าที่ที่ประพฤติมิชอบตั้งตัวเรียกค่าคุ้มครองจากผู้ประกอบการ  โดยการแอบอ้างการคุ้มครองจากทุกบริษัทฯ ในการขายสติ๊กเกอร์ปลอมอย่างผิดกฎหมาย  ทำให้เกิดค่านิยมที่ผิดในการใช้งานลิขสิทธิ์  บ่อนทำลายผลประโยชน์ในระยะยาวของผู้สร้างสรรค์และเจ้าของสิทธิ์

9) ผลลัพท์ที่ตามมาของความผิดพลาดในการบริหารจัดการของระบบ คือบริษัทจัดเก็บฯต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มอิทธิพลในท้องถิ่นหรือทีมจับที่ทุจริตต่อหน้าที่   และการต่อต้านจากผู้ประกอบการในทุกภาคส่วน  ประชาสังคมมองภาพพจน์ของบริษัทจัดเก็บและระบบจัดเก็บลิขสิทธิ์เพลง ในแง่ลบไม่ให้ความร่วมมือ  ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินการและความเสียหายเพิ่มสูงขึ้นจากการเผชิญหน้ากันในพื้นที่และการดำเนินการทางคดีความต่างๆ
 
10) การขึ้นอัตราจัดเก็บอย่างเสรี และต่อเนื่อง ต่อผู้ประกอบการมีสาเหตุมาจากหลายส่วนหลักคือ ต้นทุนในการดำเนินการสูงขึ้นเพราะกระแสต่อต้านจากสังคม  การซื้อเพลงแบบเหมาจ่ายเข้าสู่ระบบอย่างต่อเนื่อง  การจัดเก็บไม่มีประสิทธิภาพ เพราะความผิดพลาดของนโยบาย  ทั้งที่ผู้ใช้งานเพลงจะใช้เพลงที่ได้รับความนิยมตามกระแสในปริมาณเท่าเดิมของการหมุนเวียนของเพลงที่ได้รับความนิยมเท่านั้น  ซึ่งขัดต่อ ตรรกทางธุรกิจ  ที่หลักการค้าทั่วไป ยิ่งซื้อมากยิ่งถูกมาก  แต่ในระบบลิขสิทธิ์ปัจจุบันยิ่งซื้อยิ่งแพง และยิ่งเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีทั้งที่ซื้อสิทธิ์อย่างถูกต้องแล้ว  การบังคับจัดเก็บล่วงหน้า  3-12 เดือน  และหากหมดอายุหรือเกิดความผิดพลาดในการต่อสัญญา ก็จะถูกจับ


 
เอกสารประกอบบทวิเคราะห์สภาทนายความ                    -3-                         สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย

ดำเนินคดีอาญาทันที  เทียบเคียงกับการเช่าบ้านที่ทำสัญญาล่วงหน้า  แต่จ่ายเป็นรายเดือน และมีโอกาสผัดผ่อนหรือเจรจาขอเลิกสัญญาได้

11) ในส่วนของโทษอาญาในคดีละเมิดลิขสิทธิ์  เทียบเคียงกับ พ.ร.บ.เช็คที่หากเช็คคืนไม่สามารถเบิกเงินได้ในกรณี  จ่ายเพื่อค้ำประกันการกู้ยืมหรือแลกเงินสด  จะไม่สามารถดำเนินคดีทางอาญาแม้จำนวนเงินจะสูงเท่าใดก็ตาม  แต่การละเมิดลิขสิทธิ์เผยแพร่ เกิดความเสียหายเพียงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับความเสียหายจากการจ่ายเช็ค  ต้องรับโทษทางอาญา  ซึ่งแตกต่างกันโดยสิ้นเชิงในแง่ของการบังคับใช้กฎหมายอย่างเป็นธรรมและทัดเทียมกัน  การลงโทษการละเมิดลิขสิทธิ์เผยแพร่และการทำซ้ำรายย่อย ในทางอาญาจึงไม่สอดคล้องกับความเป็นจริงและเป็นการบังคับใช้กฎหมายอย่างไม่เสมอภาค  ซึ่งตามหลักการทางสากลของกฎหมายระหว่างประเทศเช่นอนุสัญญา (Berne  Convention) มีโทษการละเมิดเป็นคดีแพ่งเท่านั้นเช่นในประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีนและประเทศส่วนใหญ่ของโลก  ยกเว้นในกรณีการละเมิดขนาดใหญ่เท่านั้นที่เป็นคดีอาญาเช่นข้อตกลง (Trips Agreement)

12) การใช้มาตรการที่รุนแรงทางอาญาในการบังคับจัดเก็บ สิทธิ์เผยแพร่ ไม่เพียงแต่สร้างผลกระทบต่อผู้ประกอบการอย่างรุนแรง  แต่ยังส่งผลกระทบถึงบริษัทจัดเก็บเอง เพราะการจับกุมแต่ละครั้ง ในกรณีที่มีการอ้างสิทธิ์ซ้ำซ้อนกัน   ร้านค้าจะถูกยึดอุปกรณ์ต่างๆเป็นของกลาง ตัดหนทางในการทำการค้าต่อไป จนต้องล้มละลายหรือเลิกกิจการ ผลลัพธ์ดังกล่าวจะตัดวงจรการซื้อสิทธิ์จากทุกบริษัทฯที่เคยซื้ออยู่อย่างถาวร 
 
       13) มีการร้องเรียนต่อภาครัฐอย่างต่อเนื่อง

                 จากผลกระทบและความไม่มีเสถียรภาพในระบบการจัดเก็บ  ผู้ประกอบการที่ใช้งานเพลงได้เข้าร้องเรียนต่อภาครัฐอย่างต่อเนื่อง เช่น กรมทรัพย์สินทางปัญญา  กรมการค้าภายใน  กระทรวงพาณิชย์  กระทรวงยุติธรรม  กระทรวงมหาดไทย  สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  สำนักนายกฯ  ภายใต้สถานการณ์ที่มีการแยกตัวออกมาตั้งบริษัทจัดเก็บฯเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องรุนแรง มีการร้องเรียนถึงกรรมาธิการสภาฯหลายคณะ เช่นกรรมาธิการตำรวจ  กรรมาธิการการท่องเที่ยว  กรรมาธิการสิทธิมนุษย์ชน  เป็นต้น
                 14) มีการจัดประชุมทางวิชาการที่เกี่ยวข้องกับปัญหาลิขสิทธิ์  ในหลายหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชน  กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เชิญผู้เชี่ยวชาญทางลิขสิทธิ์จากประเทศต่างๆเพื่อถ่ายทอดความรู้และประสบการณ์ในแต่ละประเทศ  ทำให้มีโอกาสแสวงหาองค์ความรู้อย่างกว้างขวาง เป็นประโยชน์กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง

 

 

เอกสารประกอบบทวิเคราะห์สภาทนายความ                    -4-                                 สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย


                 15) มีการตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาการจัดเก็บฯของกรมทรัพย์ฯ  โดยมีนายยรรยง  พวงราช ซึ่งเป็นรองอธิบดีฯ ในขณะนั้น  เป็นประธาน ฯ  มีตัวแทนจากทุกฝ่ายเข้าร่วมเป็นอนุกรรมการ  แต่เมื่อถึงบทสรุปสุดท้ายได้มีการเชิญตัวแทนผู้ประกอบการเข้าพบ  โดยมีการชี้แจงว่ากฎหมาย พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ปัจจุบันไม่มีอำนาจเพียงพอในการดำเนินการจากการตีความของคณะกรรมการกฤษฎีกา  เป็นจุดเปลี่ยนของความหวังและเป็นจุดเริ่มต้นของการหันมาพิจารณาแก้ไข พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์อย่างจริงจัง
                   16) มีการชุมนุมประท้วงของ 7 องค์กร  ช่วงเวลานั้นผู้ประกอบการและนักแต่งเพลงได้รวมตัวกันประท้วงที่ บริเวณลานพระรูปฯ ในนาม “คณะกรรมการแก้ไขปัญหาการจัดเก็บลิขสิทธิ์” โดยมีองค์กรผู้ใช้งาน นักแต่งเพลง  บริษัทจัดเก็บ เข้าร่วมถึง 7 องค์กร มีการยื่นหนังสือต่อประธานสภาฯ  และสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ในสมัยอดีตนายก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร

17) แก้ไขพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์เพื่อให้มีองค์กรจัดเก็บ
                
                  จากผลสรุปของปัญหาการจัดเก็บค่าตอบแทนลิขสิทธิ์ หลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องมีความเห็นว่า พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ ปี 2537  ไม่มีอำนาจในการบริหารจัดการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจึงนำมาซึ่งกระบวนการแก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีองค์กรจัดเก็บที่เป็นมาตรฐานสากล
                 
                  18) มีการจัดประชุมเพื่อรับฟังความคิดเห็นในการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์  โดยมีนายบรรยง  ลิ้มประยูรวงศ์ รองอธิบดีฯ  เป็นประธานใช้เวลาประมาณสองเดือนในการร่างฯ  แต่เมื่อมาถึงตอนท้ายได้มีการคัดค้านจากฝ่ายบริษัทจัดเก็บฯ พร้อมกับเกิดเรื่องน่าเศร้าขึ้นในวงการเป็นที่ล่ำลือกันภายในแต่ไม่เป็นที่เปิดเผยต่อสาธารณชน มีผลให้ร่างดังกล่าวไม่มีการผลักดันต่อไป
 
                19) เดือนกันยายน 2548  ได้มีการเผยแพร่ร่างแก้ไข พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ฯที่มีการนิยาม “องค์กรจัดเก็บ”ขึ้นบนเว็บไซต์ของกรมทรัพย์สินทางปัญญาและต่อมาภายหลังไม่นานได้มีการเผยแพร่ร่างฯที่มีนิยาม “บริษัทจำกัด” ขึ้นมาแทนร่าง “องค์กรจัดเก็บ” ซึ่งเป็นที่เคลือบแคลงใจของผู้ประกอบการถึงความไม่มีแนวทางที่แน่นอน ในการแก้ปัญหา
                                   
                 20) มาถึงยุคสมัยสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้มีการนำร่างแก้ไขที่มีนายบรรยง  ลิ้มประยูรวงศ์เป็นประธานฯเป็นร่างที่มีนิยาม “บริษัทจำกัด”  นำเข้าพิจารณาใน ค.ร.ม.  ที่มี พลเอกสุรยุทธ์ จุลานนท์ เป็นนายกรัฐมนตรี หลังจากผ่านการอนุมัติได้มีการนำเสนอเข้าสภาฯ   ในขณะนั้นได้มีเสนอร่างประกบเข้ามาอีก 2 ร่างคือร่างของ ส.น.ช. ดร.วิริยะ นามศิริพงศ์พันธุ์ ที่เสนอให้ยกเว้นความผิดของผู้พิการทางสายตาสามารถนำงานมาแปลเป็นภาษาของคนพิการได้โดยไม่มีโทษ  และร่างของ ส.น.ช. กงกฤษ หิรัญกิจ ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมาธิการขึ้นมาพิจารณาร่างที่ได้เสนอเข้ามา


เอกสารประกอบบทวิเคราะห์สภาทนายความ                    -5-                                 สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย

                 21)  ในขณะนั้นเลขาธิการสมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย เป็นตัวแทนของผู้ประกอบการ  ได้เข้ายื่นหนังสือสนับสนุนต่อประธานคณะอนุกรรมาธิการฯ ในขณะเดียวกันมีการยื่นหนังสือสนับสนุนของสมาคมนักแต่งเพลงแห่งประเทศไทยต่อคณะอนุกรรมาธิการพิจารณาร่างแก้ไขพรบ.ลิขสิทธิ์ฯ ท่ามกลางการชุมนุมคัดค้านร่างแก้ไขของ ส.น.ช. จากฝ่ายตัวแทนศิลปินค่ายเพลงและบริษัทจัดเก็บฯ  อย่างเข้มข้นที่บริเวณหน้ารัฐสภาฯ  หลังจากผ่านการพิจารณาของกรรมาธิการแล้วได้นำเข้าพิจารณาในที่ประชุมสภาฯ พิจารณาผ่านวาระแรก แต่ สภาฯ ได้หมดวาระเสียก่อนในเวลาที่กระชั้นชิดจึงไม่ทันผ่านการพิจารณาออกมาประกาศใช้
 
                  22) จนมาถึงรัฐบาลปัจจุบันที่มี ฯพณฯ นายอภิสิทธิ์  เวชชาชีวะ เป็นนายกรัฐมนตรี ได้มีมติ ครม.ให้เดินหน้าแก้ไขร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ต่อไป      วันที่  24 เมษายน 2552 ได้มีหนังสือแต่งตั้ง”คณะกรรมการพัฒนากฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา” โดยอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา นางพวงรัตน์ อัศวพิศิษฐ์ ตามมติที่ประชุมของคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2552 ได้แต่งตั้งให้ นางปัจฉิมา ธนสันติ รองอธิบดีฯเป็นประธานคณะกรรมการ(ต่อมาภายหลังนางปัจฉิมา ธนสันติได้รับการแต่งตั้งเป็นอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา)

23) คณะทำงานร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ สภาทนายความ
ที่มา  หลักการและเหตุผล
                      อันเนื่องมาจากการแก้ไขปัญหาการจัดเก็บลิขสิทธิ์ดนตรีกรรมไม่สามารถดำเนินการอย่างต่อเนื่องและสร้างความขัดแย้งอย่างรุนแรงนับวันยิ่งยุ่งยาก ซับซ้อนเกินกว่าจะเยียวยา สมาพันธ์องค์กรผู้ใช้งานลิขสิทธิ์ไทย โดยเลขาธิการนายพรชัย ศิรินุกูลชรและที่ปรึกษาด้านกฎหมาย นายชยธวัช อติแพทย์  ได้นำประเด็นปัญหาเข้าหารือกับสภาทนายความในทุกแง่มุม มีการประชุมร่วมกับคณะกรรมการกลั่นกรองกฎหมายอย่างต่อเนื่อง จนตกผลึกทางความเห็นว่า พ.ร.บ.ลิขสิทธิ์ปี 2537 ไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่อไปได้จึงได้มีการแต่งตั้งคณะทำงานขึ้นคณะหนึ่ง เพื่อพิจารณาร่าง พรบ.ลิขสิทธิ์ในส่วนขององค์กรจัดเก็บ
                       24) มีองค์ประกอบจากองค์กรผู้ใช้งานต่างๆ  องค์กรผู้สร้างสรรค์และเจ้าของสิทธิ์  นักวิชาการ บริษัทจัดเก็บและผู้เชี่ยวชาญด้านกฎหมายของสภาทนายความ  เข้าร่วมเป็น “คณะทำงานร่างพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์”  โดยนำร่างต่างๆที่มีอยู่ของกรมทรัพย์สินทางปัญญา และของต่างประเทศ มาศึกษา เปรียบเทียบ ปรับปรุง ใช้เวลาประชุมระดมความคิดเห็นไม่ต่ำกว่า 30 ครั้ง และเชิญผู้เกี่ยวข้องหรือผู้ที่มีผลกระทบเข้าร่วมประชุมโฟกัสกรุ๊ป  จนสำเร็จเป็นร่างที่มีการนิยาม “นิติบุคคลบริหารค่าตอบแทนลิขสิทธิ์” เป็นองค์กรจัดเก็บ  กำหนดให้มีการวางกรอบโครงสร้าง
 
25) -การจัดตั้งองค์กรจัดเก็บให้มีการบริหารบัญชีงานป้องกันปัญหาสิทธิ์ซ้ำซ้อน
      -บริหารจัดการค่าตอบแทนลิขสิทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพ ใช้ค่าใช้จ่ายน้อยที่สุด
      -เพื่อนำค่าตอบแทนดังกล่าวมาจัดสรรแก่เจ้าของสิทธิ์อย่างรวดเร็ว และเป็นธรรม
      -โดยไม่มีการแสวงหากำไร
          

อ่านหน้าต่อไป....... 

home-page                    กลับหน้าเดิม 


         

Copyright 2006, bangbuathong.org All rights reserved.